รวมคำถามเปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนต้องทำยังไง ?

รวมคำถามเปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนต้องทำยังไง ? สำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนจากเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนดีไหม และยังมีคำถามที่สงสัยอีกหลายอย่าง วันนี้แอดมินจาก AIS Partner ได้รวมคำถามเปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนต้องทำยังไง ? มาไว้ให้ทุกคนแล้ว ตอบทุกข้อสงสัย ใครที่อยากเปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนต้องอ่านเลยค่ะ

Q&A

1. ใช้แบบรายเดือนดีกว่าแบบเติมเงินยังไง

สำหรับใครที่ไม่ต้องการคอยห่วงว่าเงินจะหมดตอนไหน อินเตอร์เน็ตจะใช้ไม่พอ โทรออกไม่ได้เพราะลืมเงินเติมหรือวันใช้งานหมดอายุ ซึ่งเป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน การเปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนถือว่าตอบโจทย์มาก เพราะไม่ต้องคอยห่วงเรื่องโทรออกไม่ได้ หรือเงินหมด แถมตอนนี้ AIS ยังมีโปรเน็ต AIS สำหรับคนที่เปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือน เน็ตไม่อั้น โทรฟรีในเครือข่าย 24 ชม. สนใจ คลิก ได้เลยค่ะ

 

2. ถ้าจะเปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง

สามารถเปลี่ยนได้เลยโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆค่ะ

 

3. เปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนแล้ว ยอดเงินคงเหลืออยู่ที่ไหน

แอดมินแนะนำให้ใช้ยอดเงินคงเหลือให้หมดก่อนนะคะ หรือไม่งั้นยอดเงินคงเหลือจะเปลี่นเป็นค่าโทรแทนค่ะ

 

4. เปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนนับอายุการใช้งานต่อเนื่องไหม เป็น Serenade อยู่แล้วจะหลุดไหม

นับอายุการใช้งานต่อเนื่องค่ะ แต่จะนับยอดการใช้งานแต่ละเดือนใหม่ ดูสิทธิพิเศษการใช้งานได้ที่ คลิก ได้เลยค่ะ

 

5. เปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนสามารถเปลี่ยนได้ช่องผ่านไหน และใช้เวลานานเท่าไหร่

สามารถเปลี่ยนได้ 3 ช่องทางหลักๆ โดย

ช่องทางที่ 1 เปลี่ยนบนเว็บไซต์ ผ่านเว็บ becomeaisfamily คลิกได้เลยค่ะ ระยะเวลาในการเปลี่ยนคือ หลังได้รับ sms ยืนยัน จะมีผลทันทีค่ะ

ช่องทางที่ 2 เปลี่ยนผ่าน AIS shop, Telewiz, AIS Buddy คลิกได้เลยค่ะ ระยะเวลาในการเปลี่ยน ภายใน 1 ชั่วโมงค่ะ

ช่องทางที่ 3 เปลี่ยนผ่าน Callcenter ระยะเวลาในการเปลี่ยน ภายใน 1 วัน หรือหลังจากได้รับเอกสารครบเรียบร้อยค่ะ

 

6. เอกสารที่ใช้งานการเปลี่ยนเบอร์เติมเงินเป็นรายเดือนมีอะไรบ้าง

เปลี่ยนในนามบุคคลธรรมดา

• ใช้เพียงบัตรประชาชนและซิมการ์ด

เปลี่ยนในนามนิติบุคคล

• สำเนาบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนามผูกพันนิติบุคคล ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียน ลงลายมือชื่อ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
• ใบ Application ที่ลงลายมือชื่อโดยกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม พร้อมตราประทับบริษัท โดยต้องระบุข้อมูล เลขที่รับรองบริษัท (อายุไม่เกิน 1 ปี) และเลขที่ กพ.20 หรือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี